ฟุตบอลกรมพละศึกษาโรงเรียนสุรวิทยาคาร U16 ถ้วยก
- Montree Meejaroen
- Dec 3, 2015
- 1 min read

ในอดีตที่ผ่านมาถ้าถามถึงทีมฟุตบอลนักเรียนชื่อดังของ จ.สุรินทร์ ที่เข้ามาโลดแล่น เข้ามาสร้างชื่อในวงการฟุตบอลนักเรียนของเมืองหลวง ทุกคนต้องนึกถึงโรงเรียนปราสาทวิทยาคาร จาก อ.ประสาท จ.สุรินทร์ ที่สร้างนักเตะฝีเท้าดีป้อนสู่ทีมฟุตบอลเมืองช้าง อย่างมากมายแทบนับไม่ถ้วน พอวันเวลาเปลี่ยนแปลงไป บวกผู้บริหารโรงเรียนปราสาทวิทยาคาร ไม่ได้มองเห็นคุณค่าของกีฬาฟุตบอลที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนจนเป็นที่รู้จักของคนไทยทั่วประเทศ ไม่มีการสนับสนุนกีฬาฟุตบอลอย่างที่เคยเป็น คนที่เคยทำทีมฟุตบอลให้กับสถาบันแห่งนี้ด้วยหัวจิตหัวใจที่รักฟุตบอล ก็เกิดความท้อแท้ถอดใจ จนหมดไฟในการทำทีมไปในที่สุด หลังทีมโรงเรียนปราสาทวิทยาคาร ของ จ.สุรินทร์ ชื่อหดหายไปจากฟุตบอลนักเรียนในเมืองหลวง แต่กับมีชื่อของทีมฟุตบอลของ...โรงเรียนสุรวิทยาคาร จาก อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้ก้าวขึ้นมาทดแทน โดยในปัจจุบันทีมฟุตบอลของโรงเรียนสุรวิทยาคาร จากเมืองช้าง จ.สุรินทร์ กลับมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของวงการฟุตบอลของเมืองหลวงและยังเป็นทีมฟุตบอลหมายเลขหนึ่งของ จ.สุรินทร์ ในปัจจุบัน จากการเปิดเผยของ ''ครูป๋อง'' สุธา มีสิทธิ์ กุนซือใหญ่ทีมฟุตบอลโรงเรียนสุรวิทยาคาร ว่า ''ทีมของเรากว่าจะก้าวขึ้นมาถึงวันนี้ได้ เราใช้เวลาในการสร้างทีมมานานหลายปีโดยเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ประมาณปี 2549 ทางโรงเรียนสุรวิทยาคาร ได้ท่านผู้อำนวยการ เลิศชาย ศุขประเสริฐ อดีตนักฟุตบอลของ จ.สุรินทร์ เข้ามาบริหารสถาบันแห่งนี้ ท่านก็อยากจะสร้างทีมฟุตบอลของโรงเรียนให้มีชื่อเสียงในระดับประเทศ แต่กลับไม่มีมือเท้าในการทำงาน''
''ครูป๋อง'' สุธา มีสิทธิ์ กุนซือใหญ่ทีมฟุตบอลโรงเรียนสุรวิทยาคาร
''จนเมื่อปี 2551 ตัวผมเองที่ไม่ใช่ครูที่จบทางด้านพลศึกษามา แต่เป็นครูที่จบการศึกษาทางด้านเกษตรกรรม แต่มีใจเต็มร้อยกับฟุตบอลได้ย้ายมายังสถาบันแห่งนี้ บวกกับได้ผู้อำนวยการที่ชอบบอลเหมือนกันผมจึงเริ่มลุยฟุตบอลด้วยการจับเด็กในสถาบันเข้ามาฝึก'' นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ทีมฟุตบอลของโรงเรียนสุรวิทยาคาร ก้าวขึ้นมาเป็นทีมฟุตบอลหมายเลขหนึ่งของ จ.สุรินทร์ ที่ไม่มีสถาบันไหนสู้ได้ ส่งผลให้ ''ครูป๋อง'' สุธา มีสิทธิ์ กุนซือใหญ่ทีมฟุตบอลโรงเรียนสุรวิทยาคาร ได้ตัดสินใจส่งทีมฟุตบอลของสถาบันแห่งนี้เข้ามาชิมลางฟุตบอลในเมืองหลวงในรุ่นอายุ 12 ปี มาถึงวันนี้ทีมฟุตบอลของโรงเรียนสุรวิทยาคาร สามารถโลดแล่นอยู่ในการแข่งขันฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษา ได้ถึง 3 รุ่น ทั้งรุ่นอายุ 14 ปี ที่ปัจจุบันอยู่ในประเภท ข ส่วนทีมที่สร้างความภูมิใจให้กับทางสถาบันมากที่สุดเห็นจะเป็นรุ่นอายุ 16 ปี ที่ขณะนี้โลดแล่นอยู่ในประเภท ก. และในรุ่นอายุ 18 ปี เล่นอยู่ในประเภท ค
แม้จะเป็นนักเตะจาก จ.สุรินทร์ ที่ห่างไกลเมืองหลวงเกือบ 500 กม. แต่ลีลาในสนาม ไม่ได้เป็นรองนักเตะฝีเท้าดีในเมืองหลวง
''อ.ป๋อง'' สุธา มีสิทธิ์ กุนซือใหญ่ทีมโรงเรียนสุรวิทยาคาร ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ''ทุกวันนี้ที่ทำทีมจนนักเตะก้าวขึ้นมายืนในจุดนี้ได้ก็เพราะได้ผู้อำนวยการให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีในทุกด้าน จนคนทำทีมมีกำลังในการทำทีม นักเตะมีกำลังใจในการเล่น พร้อมกับวางเป้าในการทำทีมฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษา จะต้องคว้าตำแหน่งแชมป์ใดแชมป์หนึ่งกลับไปฝากผู้อำนวยการให้ได้ก่อนที่ท่านจะเกษียณอายุราชการอีกใน 2 ปี ข้างหน้านี้'' ''นอกจากนั้นบรรดานักเตะที่สร้างมาทั้งหมดก็พร้อมที่จะให้ทีมจังหวัดเอาไปใช้งานได้ ถ้าสนใจนักเตะคนไหน รุ่นไหนที่จะเอาไปรับใช้ จ.สุรินทร์ ก็ยินดีปล่อยนักเตะเหล่านั้นไปให้เพราะทุกวันนี้ที่สร้างเด็กนักเตะเหล่านี้ขึ้นมาก็เพื่อวงการฟุตบอลของโรงเรียนสุรวิทยาคารและวงการฟุตบอลของ จ.สุรินทร์ แต่ถ้านักเตะคนไหนสามารถก้าวไปติดทีมนักเรียนไทย เยาวชนทีมชาติไทยและทีมชาติไทยได้ นั่นถือเป็นผลกำไรที่พวกเราภาคภูมิใจเป็นที่สุด'' ดังนั้นใครต้องการยลฝีเท้าของนักเตะเมืองช้างของสถาบันแห่งนี้ให้ติดตามไปชม ไปเชียร์กันได้ในศึกฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษา ที่ขณะนี้ทำการระเบิดแข้งกันอยู่ที่สนามฟุตบอลเฉลิมพระเกียรติ คลอง 6
Comentarios